ที่ทำงานคือโรงละครแห่งชาติ

ที่ทำงานคือโรงละคร ทุกวันที่เราออกไปทำงาน ก็เหมือนกับเราออกไปเล่นละคร ละครตามบทบาทที่เราได้รับ เช่น เลขานุการ เราก็ต้องเล่นบทบาทของเลขานุการ สาวโรงงานเราก็เล่นบทบาทสาวโรงงาน ช่างก่อสร้าง เราก็ต้องเล่นบทบาทเป็นช่างก่อสร้าง เป็นแม่บ้านสำนักงาน เราก็เล่นบทบาทเป็นแม่บ้านสำนักงาน เป็นเจ้านายเราก็เล่นบทบาทเป็นเจ้านาย ต้องแสดงให้สมบทบาท การที่เราจะอยู่ร่วมกันกับคนอื่นได้ เราต้องเป็นนักแสดง แสดงบทคนดี แสดงบทนางฟ้า เพื่อให้ชีวิตมีความผาสุข สมดุลอยู่กับคนรอบ ๆ ตัวเรา

ถึงแม้ว่าใจเราไม่อยากแสดงเป็นบทบาทเหล่านั้นแต่เราก็ต้องทำ เพราะมันเป็นเหตุผลที่ดี เป็นสิ่งที่ดี ให้เราได้อยู่รอดในสังคม โลกนี้มีความยุติธรรม สวยงาม สมบูรณ์แบบเสมอ ถ้าเราจะต้องยึดถือความถูกต้อง หากการน้อยใจชีวิต น้อยใจเพื่อนร่วมงาน น้อยใจเจ้านาย เราจะทุกข์มากและทำงานไม่มีความสุข

การรู้หน้าที่ตัวเองและแสดงตามบทบาทของตัวเองให้สมบทบาท อย่าอวดเก่ง อย่าเยอะ อย่าเม้ามอยกับคนรอบข้างเยอะ ให้เป็นคนนิ่ง ขยันทำงาน ไม่เอาเปรียบคนอื่น เราก็จะไม่มีปัญหาวุ่นวาย จะไม่เกิดปัญหาจากคำพูดของเรา แต่ถ้าเราเป็นที่เอาเปรียบเพื่อน แต่งตัวสวยเกินหน้าเกินตาเพื่อน หรือมีนิสัยไม่ดี ทำให้ตัวเองโดดเด่นในทางไม่ดี เมื่อแสดงออกมาแบบนั้นบ่อย ๆ วันนึงเราก็จะไม่ใครคบเป็นเพื่อน

เราไม่ควรเก็บเรื่องความชอกช้ำใจจากที่ทำงาน กลับมาบ้านและเอาเรื่องมาทุกข์ใจ เจอเจ้านายด่า เราก็ต้องทำความเข้าใจเจ้านาย เขาก็มีนิสัยความเป็นเจ้านาย เราต้องเลือกเอาสาระที่เขาบอก เขาสอนมาแก้ไขตัวเราเอง แม้ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตาม

เพราะฉะนั้นการที่เราอยู่เป็นและรู้หน้าที่ตัวเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญ ว่าเราจะทำหน้าที่ของตัวเองแค่ไหน ยังไง โดยเฉพาะคนอวดเก่ง อวดรู้ จะมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานตลอด คนที่ขี้เกียจ เชื่องช้า จะโดนดูถูก หลาย ๆ อย่างไม่สมบูรณ์ในตัวคนคนหนึ่งหรอก ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย ลูกน้อง หรือตัวเอง หรือคนในครอบครัว เราจึงต้องเล่นละครให้สมบทบาทที่เหมาะ เมื่อรู้ว่าเจอคนที่ชอบโมโห เราจะต้องปรับตัวอย่างไร ให้เขาไม่วีนใส่ แบบไหนไม่ปะทะ เมื่อเจอคนที่ชอบนินทาคนอื่นเราจะปรับตัวแบบไหน เราต้องทำเป็นไม่รู้ ศัตรูก็จะเป็นมิตร ทำตัวนิ่ง ๆ เย็น ๆ ไม่จุ้นจ้าน ไม่วุ่นวาย

มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์โลกที่ไม่สมบูรณ์แบบทุกอย่าง แม้แต่ตัวเราเอง อากัปกิริยาต่าง ๆ ที่เคลื่อนไหว เราจะไปบังคับใด ๆ เขาไม่ได้ มีแต่เราเองที่จะต้องปรับว่านี่คือบทบาทตัวเองเป็นแบบนี้ ไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับจุดที่ไม่เหมาะไม่ควร วางตัวให้เหมาะสม ไม่กระตุ้นหรือกระตุกนิสัยคนอื่นให้มากระทบกับจิตใจเรา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา ก็ตัวเราเองนี่แหละที่เป็นคนเริ่มต้นแสดงบทบาทนั่นนี่ออกไป

การเข้าใจบทบาทของมนุษย์โลก อยู่อย่างพอดี อยู่อย่างเป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตน แล้วเราจะมีปัญหาน้อยที่สุด และเข้าใจว่าโลกนี้มันคือโรงละคร ออกจากบ้านเพื่อไปเล่นละคร เราคือตัวละคร ให้เป็นละครที่มีแต่ความจริงใจ ละครแห่งความดี ความขยันและอดทนต่อแรงกระแทก ในที่สุดทุกอย่างในชีวิตของเราจะดี ทำภายนอกให้ดีและภายในใจค่อย ๆ แก้ให้เป็นตัวละครที่ดีตามการกระทำออกไป